ออร์แกเนลล์ – วิกิพีเดีย
ผู้เขียนบทความ : th.m.wikipedia.org
รีวิวจากผู้ใช้งาน : 5 ⭐ (29302 คะแนน)
ระดับสูงสุด : 5 ⭐
คะแนนต่ำสุด : 1 ⭐
สรุปเนื้อหาบทความ :
รายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับ : ออร์แกเนลล์ใดผลิตโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ให้กับเซลล์ได้ตามลำดับ
- ใช้ชื่อเรื่องนี้ไม่ได้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
ชีววิทยาของเซลล์ (Cell Biology) – SciMath
ผู้เขียนบทความ : www.scimath.org
รีวิวจากผู้ใช้งาน : 4 ⭐ (30029 คะแนน)
ระดับสูงสุด : 5 ⭐
คะแนนต่ำสุด : 1 ⭐
สรุปเนื้อหาบทความ :
รายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับ : ออร์แกเนลล์ใดผลิตโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ให้กับเซลล์ได้ตามลำดับ
- เซลล์และองค์ประกอบของเซลล์ (Cell and cell components)
- เซลล์เป็นหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตที่สามารถแสดงคุณสมบัติและความเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างสมบูรณ์
- การค้นพบและทฤษฎีของเซลล์
- – ปี ค.ศ.1655 ได้มีการประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ชนิดเลนส์ขึ้นมา
- – เมื่อมีการส่องดูชิ้นไม้คอร์คที่ฝานบาง
- – พบโครงสร้างที่มีรูปร่างเป็นช่องเหลี่ยมเล็ก ๆ จึงเรียกว่า เซลล์ (Cell) หมายถึง ห้องเล็ก ๆ
- – ซึ่งโครงสร้างที่พบนี้เป็นเพียงผนังเซลล์ของพืชที่ยังคงเหลืออยู่หลังจากที่เซลล์ตายแล้ว
- ทฤษฎีเซลล์ (Cell Theory)
- Schleiden และ Schwan ได้ร่วมกันตั้งทฤษฎีเซลล์ (Cell Theory) มีสาระสำคัญ คือ “สิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ประกอบด้วย เซลล์ และผลิตภัณฑ์ของเซลล์” (All animal and plant are composed of cell and products) Rudolf Virchow ได้ศึกษาการเจริญเติบโตของเซลล์และการเพิ่มจำนวนเซลล์จากเซลล์ที่เจริญเติบโต จึงเพิ่มเติมทฤษฎีเซลล์ว่า “เซลล์ทุกชนิดย่อมมีกำเนิดมาจากเซลล์ที่มีอยู่ก่อน”
- ประเภทของเซลล์แบ่งได้เป็น 2 ชนิด
- ลักษณะ Prokaryote
- ลักษณะ Eukaryote
- 1.ไม่มีออร์แกเนลล์ชนิดที่มีเยื่อหุ้ม,ไม่มี Centrioles และ Microtubules
- 2. ไรโบโซมขนาดเล็ก (70 S)*
- 3. ผนังเซลล์ (Cell Wall) ประกอบด้วยสารเคมีเรียก Peptidoglycan, ไม่มี Cellylose
- 4. แฟลเจลลาประกอบด้วยโปรตีน Flagellin
- 5. การแบ่งเซลล์เป็นแบบโดยตรง, ไม่มี Spindle
- 6.การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเกิดน้อยมากและไม่มีการแบ่ง Meiosis
- 7.ส่วนใหญ่หายใจแบบไม่ใช้ O2
- 1. มีออร์แกเนลล์ชนิดที่มีเยื่อหุ้มและมี Centrioles,Microtubules
- 2. ไรโบโซมขนาดใหญ่ (80 S)*
- 3. ไม่มีผนังเซลล์ยกเว้นในเซลล์พืชและเห็ด รา โดยผนังเซลล์ประกอบด้วยสาร Cellulose
- 4. แฟลเจลลาและซีเลีย มีโปรตีน Tubulin เป็นองค์ประกอบ (9+2)
- 5. มีการแบ่งเซลล์แบบ Mitosis และมี Spindle
- 6.การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ อาศัยการแบ่ง Meiosis และมีการปฏิสนธิ
- 7. ส่วนใหญ่หายใจแบบใช้ O2
- โครงสร้างของเซลล์ (Structure of Cell)
- เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane)
- เป็นส่วนที่ห่อหุ้มส่วนต่าง ๆ ของเซลล์ไว้ทั้งหมด
- มีความหนาประมาณ 75-100 อังสตรอม
- ประกอบด้วย ไขมัน กลุ่มฟอสโฟลิปิด กับ โปรตีน
- แสดงโครงสร้างฟอสโฟลิปิด (Phospholipid) ของเยื่อหุ้มเซลล์
- โครงสร้างของเยื้อหุ้มเซลล์
- The Davson-Daniell Model
- Fluid mosaic model (ยอมรับในปัจจุบัน)
- โครงสร้างเยื้อหุ้มเซลล์แบบ Fluid Mosaic Model
- Singer และ Nicolson ได้เสนอ Fluid Mosaic Model
- มีการจัดเรียงตัวของไขมัน 2 ชั้น (Lipid Bilayer) โดยโมเลกุลของไขมันหันเอาด้านห่าง
- กรดไขมันชนิดไม่มีประจุ (Non-Polar) ไม่ชอบนํ้า (Hydrophobic) จะหันเข้าหากัน
- หัวเป็นกลีเซอรอล มีประจุ (Polar) ชอบนํ้า (Hydrophilic) จะหันเข้าสู่ด้านนอกและในเซลล์
- *ไกลโคลิปิด (Glycolipid) หรือ ไกลโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำให้กับเซลล์ โดยเป็นตัวรับที่มีความจำเพาะต่อสารเคมีบางชนิด
- * เยื่อหุ้มเซลล์มีรูขนาดเล็กที่อนุภาคขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 อังสตรอม แพร่ผ่านได้ เยื่อเซลล์จึงมีคุณสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่าน (Semipermeable Membrane) ทำให้สาร บางชนิดผ่านเข้าออกได้ เกิดการแลกเปลี่ยนสารระหว่างเซลล์กับสิ่งแวดล้อมและการกระจายของประจุไฟฟ้าระหว่างภายในกับภายนอกเซลล์
- โปรตีนบริเวณเยื่อหุ้มเซลล์
- โปรตีนภายใน (Integral Protein)
- เป็นโปรตีนที่โมเลกุลแทรกอยู่ในชั้นของไขมัน
- ส่วนที่ไม่มีประจุ (Non Polar) อยู่ด้านใน ส่วนที่มีประจุ (Polar) ทะลุออกมาด้านนอก
- เป็นโปรตีนตัวพา (Carier Protein) ทำให้ นํ้า ไอออน (Ions) หรือสารที่มีอนุภาคขนาดใหญ่เข้าสู่เซลล์ได้
- โปรตีนภายนอก (Peripheral Protein)
- เป็นโปรตีนที่วางตัวอยู่นอกชั้นไขมัน ส่วนใหญ่อยู่ด้านไซโตพลาสซึม
- ทำหน้าที่แตกต่างกัน ได้แก่ ลำเลียงสาร (Transport Protein) เอนไซม์ (Enzyme) โปรตีนตัวรับ (Receptor Protein) เชื่อมต่อระหว่างเซลล์ (Intercellular Junctions) การจำกันได้ของเซลล์ (Cell-Cell recognition) ยึดโครงสร้างของเซลล์และของเหลวภายในเซลล์ (Attachment to the cytoskeleton and extracellular matrix (ECM))
- สารเคลือบเซลล์ (Cell Coat)
- เซลล์สัตว์พบไกลโคโปรตีน ถ้าถูกทำลายจะทำให้เซลล์จำกันไม่ได้มีแต่การเจริญ (Growth) แต่ไม่เปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่เฉพาะ (Differentiation) เช่น เซลล์มะเร็ง
- เซลล์พืชอาศัยผนังเซลล์ (Cell Wall) โดยมี cellulose เป็นแกนกลางและมี Lignin Cutin Pectin และ Suberin อยู่ด้านนอก มีช่องติดต่อระหว่างเซลล์ คือ พลาสโมเดสมาตา (Plasmodesmata)
- ผนังเซลล์ของสาหร่าย ประกอบด้วย Pectin เป็นส่วนใหญ่ กับ Cellulose
- ผนังเซลล์ของฟังไจ เป็น Chitin
- ผนังเซลล์ของแบคทีเรียคือ Peptidoglycan ทำให้แบคทีเรียสามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดี
- หน้าที่ของเยื่อเซลล์ (Function of Cell Membrane)
- เยื่อเซลล์ทำหน้าที่เป็นเสมือนรั้วบ้าน กั้นเซลล์ออกจากกัน และสิ่งแวดล้อม
- ควบคุมการเคลื่อนย้ายสารผ่านเข้าออกเซลล์
- รักษาสมดุลของสภาพแวดล้อมภายในเซลล์
- มีโปรตีนตัวรับ (Receptor Protein) เป็นตัวรับสาร ทำให้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน
- ไซโตพลาสซึม (Cytoplasm)
- ประกอบด้วย ไซโตซอล (Cytosal หรือ Cytoplasmic Matrix) เป็นของเหลวที่ประกอบด้วย สารอินทรีย์ และ สารอนินทรีย์ รวมถึงสารแขวนลอยต่าง ๆ มีลักษณะคล้ายวุ้น
- เป็นแหล่งของปฏิกิริยาเคมี
- มีออร์แกเนลล์ (Organelles) ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ทำหน้าที่เป็นอวัยวะของเซลล์
- นอกจากนี้ยังมีสิ่งไร้ชีวิต (Inclusion Body) ซึ่งเป็นสารที่เซลล์สร้างและสะสมไว้ในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะพบได้เฉพาะเซลล์บางชนิด และบางเวลาเท่านั้น เช่น สารที่มีโครงสร้างเป็นเม็ดหรือแกรนูลเพื่อการส่งออกไปนอกเซลล์ เช่น สารคัดหลั่ง สารสื่อประสาทพวกฮอร์โมน หยดไขมัน (Lipid Droplet) ไกลโคเจน (Glycogen) และสารสีพวกเมลานิน (Melanin) ซึ่งทำให้เกิดสีผิวเข้ม เป็นต้น
- ออร์แกเนลล์ (Organelles) มีโครงสร้าง (Structure) และหน้าที่ (Function) ที่แน่นอน อยู่ในไซโตซอล
- แสดงรูปร่างของออร์แกเนลล์ต่างๆที่สามารถพบได้ภายในเซลล์ยูคาริโอต
- ร่างแหเอนโดพลาสซึม (Endoplasmic Reticulum, ER)
- มีลักษณะเป็นท่อกลวงทรงกระบอก หรือ แบน เรียงตัวเป็นร่างแห เป็นเยื่อชั้นเดียว มีองค์ประกอบเช่นเดียวกับเยื่อหุ้มเซลล์ มี 2 ชนิด คือ ชนิดหยาบและชนิดเรียบ
- 1.1 ร่างแหเอนโดพลาสซึมชนิดหยาบ (Rough Endoplasmic Reticulum, RER)
- – เป็นท่อแบนเรียงทับซ้อนกันเป็นชั้น
- – มีไรโบโซม (Ribosome) เกาะที่ผิวด้านนอกทำให้มีผิวขรุขระ
- – ทำหน้าที่ลำเลียงโปรตีนที่สร้างจากไรโบโซม เพื่อส่งออกไปใช้นอกเซลล์ เช่น อิมมูโนโกลบุลิน (Immunoglobulin) เอนไซม์ (Enzyme) และฮอร์โมน (Hormone)
- – ทำงานร่วมกับกอลจิ คอมเพล็กซ์ (Golgi Complex) ทำหน้าที่สะสมให้มีความเข้มข้นก่อนส่งออก
- 1.2 ร่างแหเอนโดพลาสซึมชนิดเรียบ (Smooth Endoplasmic Reticulum, SER)
- – มีผิวเรียบเป็นท่อทรงกระบอกโค้งงอ
- – ทำหน้าที่สังเคราะห์และหลั่งสาร สเตอรอยด์ฮอร์โมน จึงพบมากในเซลล์ต่อมหมวกไต เซลล์เลย์ดิกในอัณฑะ และเซลล์ในรังไข่
- – สังเคราะห์โปรตีน กำจัดสารพิษที่เซลล์ตับ
- – เผาผลาญโคเลสเตอรอล และไกลโคเจน
- – ในเซลล์กล้ามเนื้อ (Sarcoplasmic Reticulum) ทำหน้าที่ส่งถ่ายแคลเซียม ซึ่งควบคุมการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อ
- ถุงกอลจิ คอมเพล็กซ์ (Golgi complex)
- – เป็นออร์แกเนลล์ที่ติดต่อกับ ER มีลักษณะเป็นถุงแบนที่มีเยื่อ 2 ชั้น เรียกว่า Cisterna
- – บรรจุโปรตีนที่รับมาจาก RER เพื่อสังเคราะห์เป็นสารหลายชนิดที่พร้อมจะใช้งานได้ใน Vacuole Sac
- – หน้าที่สร้าง ไลโซโซม อะโครโซม (Acrosome) สร้างเมือกในเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ สร้างแผ่นเซลล์ (Cell Plate) ในการแบ่งเซลล์ของพืช
- ไรโบโซม (Ribosome)
- – พบในไซโตพลาสซึมของเซลล์ทุกชนิด และยังพบในไมโตคอนเดรีย และคลอโรพลาสต์
- – เป็นออร์แกเนลล์ที่มีขนาดเล็กที่สุด คือ 0.015-0.025 ไมครอน
- – ประกอบด้วย โปรตีน และ rRNA
- – ไม่มีเยื่อหุ้ม มี 2 หน่วยย่อย (2 Sub Unit)
- – ไรโบโซม เกาะติดกับสาร mRNA (Free Poly Ribosome) ทำหน้าที่สร้างโปรตีนเพื่อใช้เป็นเอนไซม์ในเซลล์
- – ไรโบโซม (Poly Ribosome) เกาะติดกับผนังด้านนอกของ RER ทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีนเพื่อส่งออกนอกเซลล์
- ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria)
- – พบในเซลล์ยูคาริโอตทุกชนิด
- – มีรูปร่างเป็นแท่งยาว กลมหรือรี ยาวประมาณ 2-6 ไมโครเมตร
- – มีเยื่อ 2 ชั้น ชั้นนอกเรียบ ชั้นในพับทบเป็นท่อเรียกว่า คริสตี้ (Cristae) ด้านในเป็นของเหลวเรียก Matrix
- – เยื่อชั้นนอกทำหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างฟอสโฟลิปิด เยื่อชั้นในเป็นที่เกาะของเอนไซม์ที่
- – ทำหน้าที่ผลิตสารพันธะพลังงานสูง คือ ATP (Adenosine Triphosphate)
- – สามารถแบ่งตัวได้เนื่องจากมี DNA และ ไรโบโซม และมีวงจรชีวิตอยู่ได้ 10-12 วัน
- พลาสติด (Plastid)
- – พบเฉพาะในเซลล์พืชและสาหร่าย มีรูปร่างเป็นแท่งกลมรี มีเยื่อ 2 ชั้น มี DNA จึงแบ่งตัวได้
- – แบ่งออกเป็น 3 ชนิด
- คลอโรพลาสต์ (Chloroplast) โครโมพลาสต์ (Chromoplast) และลิวโคพลาสต์ (Leucoplast)
- คลอโรพลาสต์ (Chloroplast)
- มีเยื่อ 2 ชั้น
- ทำหน้าที่จับพลังงานแสง เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงในปฏิกิริยาการใช้แสง (Light Reaction)
- คลอโมพลาสต์ (Chromoplast)
- เป็นพลาสติดที่ไม่มีคลอโรฟิล แต่มีสารชนิดอื่น เช่น คาโรตีนอยด์ (Carotenoid) ทำให้เกิดสีส้ม ไฟโคบิลิน (Phycobilin)
- จับพลังงานแสงได้ ในช่วงคลื่นแสงต่าง ๆ ที่คลอโรฟิลไม่สามารถจับได้ คลอโมพลาสต์จึงช่วยคลอโรพลาสต์ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง
- ลิวโคพลาสต์ (Leucoplast)
- ทำหน้าที่เก็บสะสมอาหารพวกคาร์โบไฮเดรต พบมากในส่วนที่สะสมอาหาร
- ไลโซโซม (Lysosome)
- – มีเยื่อชั้นเดียว
- – ภายในจะบรรจุเอนไซม์ซึ่งย่อยสลายด้วยนํ้า (Hydrolytic Enzyme) ชนิดต่าง ๆ มากกว่า 40 ชนิด
- – สร้างมาจากกอลจิ คอมเพล็กซ์ แบ่งเป็น 4 ชนิด คือ
- 1) Primary (Vergin) Lysosome เป็นไลโซโซมแรกสร้าง มีหน้าที่เกี่ยวกับการย่อยอาหารภายในเซลล์
- 2) Secondary Lysosome หรือ Phagosome เป็นไลโซโซมที่ทำลายสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกที่เข้าสู่เซลล์
- 3) Residual Body เป็นไลโซโซมที่บรรจุกากที่เหลือจากการย่อย และดูดซึมกลับของเซลล์ ซึ่งรอการกำจัดออกทางเยื่อเซลล์โดยกระบวนการ Exocytosis
- 4) Autophagic Vacuole หรือ Auto phagosome เป็นไลโซโซมที่ทำลายองค์ประกอบหรือออร์แกเนลล์ของเซลล์ที่หมดอายุ หรือมีพยาธิสภาพเป็นการย่อยส่วนต่าง ๆ ของเซลล์ตัวเอง เรียกว่า Autolysis
- เพอร์รอกซิโซม หรือไมโครบอดี (Peroxisome or Micro Body)
- – มีเยื่อหุ้มชั้นเดียว
- – เก็บเอนไซม์พวก Catalase Dehydrogenase พบในเซลล์สัตว์เช่น เซลล์ตับ เซลล์ท่อไต และเซลล์พืช
- – หน้าที่ทำลายสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ และ ออกซิเจนที่มากเกินพอในเซลล์
- เซนตริโอล (Centriole)
- – เป็นออร์แกเนลล์ที่พบในเซลล์สัตว์ แต่ไม่พบในเซลล์พืช
- – มีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอกไม่มีเยื่อหุ้ม 2 อัน วางตัวในแนวตั้งฉากซึ่งกันและกัน
- – ทำหน้าที่สร้างเส้นใยสปินเดิล (Spindle Fiber) เพื่อยึดติดกับโครโมโซม เพื่อดึงโครโมโซมไปอยู่คนละขั้วของเซลล์
- – เซลล์พืชไม่มีเซนตริโอล จะมีโพลาร์ แคพ (Polar Cap) เพื่อทำหน้าที่สร้างเส้นใยสปินเดิลในเซลล์
- แวคิวโอล (Vacuole)
- 1) Sap Vacuole เป็นแวคิวโอลในเซลล์พืช สะสมสารต่าง ๆ ที่พืชสร้างขึ้นในเซลล์ที่เกิดใหม่ ๆ
- 2) Contractile Vacuole พบในพวกโปรโตซัวนํ้าจืด เช่น อะมีบา พารามีเซียม ทำหน้าที่เก็บและขับถ่ายของเหลวส่วนเกินออกจากเซลล์
- 3) Food Vacuole พบในโปรโตซัวบางชนิดและเซลล์สัตว์ชั้นสูง ที่กินสิ่งแปลกปลอม
- โครงสร้างหลักของเซลล์ (Cell Cytoskeleton)
- ไมโครทูบูล (Microtubule)
- – ทำหน้าที่รักษารูปทรงของเซลล์ ช่วยในการขนส่งภายในเซลล์ โดยการยืดหยุ่นของโปรตีน
- – ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของไซโตพลาสซึม (Cytoplasmic Streaming หรือ Cyclosis)
- – ช่วยในการเคลื่อนไหวของออร์แกเนลล์
- – เป็นส่วนประกอบของเซนตริโอล ซีเลีย
- ไมโครฟิลาเมนต์ (Microfilament)
- – ประกอบด้วยโปรตีน แอคติน (Actin) ทำงานร่วมกับโปรตีนมัยโอซิน (Myosin Filament)
- – ช่วยในการเคลื่อนย้ายออร์แกเนลล์ การหดตัวและการแบ่งเซลล์
- อินเตอร์มีเดียทฟิลาเมนต์ (Intermediate Filament)
- -โครงสร้างเสริมเซลล์ มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามชนิดของเซลล์
- นิวเคลียส (Nucleus)
- – นิวเคลียสเป็นออร์แกเนลล์ขนาดใหญ่ รูปร่างกลมรี เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-10 ไมโครเมตร
- ประกอบด้วย
- เยื่อหุ้มนิวเคลียส (Nuclear Membrane) เป็น Unit Membrane 2 ชั้น
- นิวคลีโอพลาสซึม (Nucleoplasm)
- นิวคลีโอลัส (Nucleolus) เป็นโมเลกุลของ DNA ที่ขดตัวเป็นก้อน ฝังตัวอยู่ในนิวคลีโอพลาสซึม สามารถเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ภายในนิวเคลียส สามารถรวมตัวและแบ่งตัวได้ ทำหน้าที่สังเคราะห์ RNA
- การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์
- เซลล์ที่มีชีวิตจะลำเลียงสารเข้าออกเซลล์ตลอดเวลา โดยการลำเลียงสารเกิดได้ 2 แบบ คือ
- ลำเลียงโดยไม่ใช้พลังงาน (Passive Transportation)
- การลำเลียงโดยใช้พลังงาน (Active Transportation)
- (การนำสารเข้าออกเซลล์อาจทำโดยทะลุผ่านเยื่อเซลล์ หรือใช้วิธีการสร้างถุงหุ้มสาร (Vesicle))
- แสดงรูปแบบการลำเลียงสารแบบ Passive transport และ Active transport
- http://www.chegg.com/homework-help/questions-and-answers/reviewing-passive-active-transport-passive-active-transport-used-move-molecules-cells-show-q12399141
- การลำเลียงโดยไม่ใช้พลังงาน (Passive Transportation)
- การแพร่ (Diffusion)
- เคลื่อนที่ของอนุภาคของสารจากบริเวณที่มีความเข้มข้นสูงไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นตํ่า เพื่อการกระจายอนุภาคของสารอย่างสมํ่าเสมอ การแพร่จะหยุดและที่สภาวะสมดุลการแพร่อนุภาคของสารยังคงเคลื่อนที่ด้วยความเข้มข้นที่เฉลี่ยเท่ากันทุกบริเวณ
- การแพร่มีหลายวิธี ได้แก่
- การแพร่ธรรมดา (Simple Diffusion)
- เป็นการแพร่ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์โดยละลายตัวในเยื่อหุ้มเซลล์ และผ่านทางรูหรือช่องของเยื่อหุ้มเซลล์
- สารชนิดที่ละลายในไขมัน เช่น อัลกอฮอล์ ฮอร์โมนสเตอรอยด์ จะแพร่ผ่านเยื่อเซลล์ได้ดี
- รูหรือช่องว่างของเซลล์เกิดจากโมเลกุลของโปรตีนที่มีประจุที่แทรกอยู่ในชั้นของไขมัน เป็นช่องให้โมเลกุลของนํ้าและสารโมเลกุลขนาดเล็กผ่านเข้าออกได้ สารที่แพร่ผ่านทางช่องนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกไม่ละลายในไขมัน
- สารที่มีประจุลบจะแพร่ผ่านได้ดีเพราะโปรตีนมีประจุบวก
- สารที่ไม่มีประจุ แต่มีขนาดเล็ก ก็จะแพร่ผ่านทางรูหรือช่องเยื่อเซลล์ได้ดี
- การแพร่โดยอาศัยตัวพา (Facilitated Diffusion)
- สารขนาดใหญ่บางชนิดไม่สามารถผ่านช่องของเยื่อหุ้มเซลล์ เช่น กรดอะมิโน นํ้าตาล กลีเซอรอล
- จะแพร่ผ่านเข้าสู่เซลล์โดยอาศัยโปรตีนตัวพา (Carier Protein) ในชั้นไขมัน
- การแพร่แบบอาศัยตัวพาจะมีอัตราการแพร่เร็วกว่าการแพร่ธรรมดาหลายเท่าตัว
- ออสโมซิส (Osmosis)
- การแพร่ของนํ้าผ่านเยื่อกั้น (Membrane) โดยมีทิศทางการแพร่จากสารละลายที่มีความเข้มข้นน้อยไปยังด้านที่มีความเข้มข้นมาก
- นํ้าแพร่ผ่านถุงจะทำให้เกิดแรงดันรอบ ๆ ถุง ทำให้ถุงเต่ง (Turgid) เรียกแรงดันเต่ง (Turgor Pressure)
- สารละลายกับการออสโมซิส
- แสดงผลของสารละลายกับการออสโมซิส โดยสารละลายไฮเพอร์โทนิคมีผลให้เซลล์เหี่ยว สารละลายไอโซนิคทำให้เซลล์มีสภาพปกติ สารละลายไฮโพโทนิคทำให้เซลล์เต่งจนแตก
- https://en.wikipedia.org/wiki/Osmosis
- Hypotonic Solution ภายนอกเซลล์มีความเข้มข้นต่ำกว่าภายในเซลล์
- นํ้าจากสารละลายจะแพร่เข้าสู่เซลล์ทำให้เซลล์เต่ง
- เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า พลาสมอพไทซิส (Plasmoptysis)
- ถ้าเป็นเซลล์พืช เซลล์จะไม่แตก แต่ในเซลล์สัตว์จะทำให้บวมและแตกได้
- Hypertonic Solution สารละลายภายนอกมีความเข้มข้นสูงกว่าภายในเซลล์
- นํ้าจะแพร่ออกจากเซลล์ทำให้เซลล์เหี่ยว เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า พลาสโมลิซิส (Plasmolysis)
- เห็นได้ชัดเจนในเซลล์สัตว์
- Isotonic Solution สารละลายมีความเข้มข้นเท่ากับภายในเซลล์
- Dialysis เป็นเทคนิคที่ใช้ในการแยกอนุภาคขนาดเล็กซึ่งมีขนาดแตกต่างกันออกจากกัน โดยการแพร่ (diffusion) ผ่านเยื่อ (permeable membrane) ตัวอย่างเช่น ในสารละลายที่มีทั้งโปรตีนและเกลือ จะสามารถแยกเกลือออกจากโปรตีนได้โดยให้สารละลายแพร่ผ่านเยื่อที่ยอมให้อนุภาคของเกลือผ่านได้เท่านั้น กระบวนการดังกล่าวเป็นลักษณธที่คล้ายกับการแพร่และการออสโมซิส
- การลำเลียงโดยใช้พลังงาน (Active Transportation)
- สารจากบริเวณที่มีความเข้มข้นของสารตํ่าเคลื่อนที่ไปสู่บริเวณที่มีความเข้มข้นของสารสูงโดยใช้พลังงาน ATP
- เช่น การลำเลียงสาร Na+ และ K+ ในการเกิดกระแสประสาท
- การลำเลียงสารโดยการสร้างถุง (Vesicular or Bulk Transportation)
- แสดงกระบวนการลำเลียงสารออกนอกเซลล์ (Exocytosis) และ การลำเลียงสารเข้าสู่เซลล์ (Endocytosis)
- http://lifeofplant.blogspot.com/2011/04/endocytosis-and-exocytosis.html
- Exocytosis เป็นการลำเลียงสารโมเลกุลใหญ่ออกนอก เช่น เซลล์เยื่อบุผนังกระเพาะอาหารจะมีการคัดหลั่ง (Secretion) ของสารพวกเอนไซม์
- Endocytosis เป็นการลำเลียงสารโมเลกุลใหญ่เข้าสู่เซลล์ โดยใช้ส่วนของเยื่อเซลล์โอบล้อมสารที่จะนำเข้าสู่เซลล์ให้เป็นถุงแล้วกลืนเข้าไปในไซโตพลาสซึม
- 1) Phagocytosis เป็นการกลืนสารที่เป็นของแข็งขนาดใหญ่ โดยการไหลของไซโตพลาสซึม ทำให้เยื่อเซลล์ยื่นออกไปเป็นขาเทียม (Pseudopodium) หุ้มล้อมสาร
- 2) Pinocytosis เป็นการกลืนสารขนาดใหญ่ที่อยู่ในรูปของสารละลาย โดยสร้างหลุมหรือถํ้าที่เยื่อเซลล์ โดยเยื่อเซลล์เว้าเข้าไปในไซโตพลาสซึม เมื่อสารตกลงไปแล้วเชื่อมปากหลุมให้ปิด เกิดเป็น Vesicle อยู่ในไซโตพลาสซึม
- 3) Receptor-Mediated Endocytosis เป็นการนำสารเข้าสู่เซลล์ โดยอาศัยโปรตีนตัวรับ (Receptor Protein) บนเยื่อเซลล์ทำหน้าที่จับกับสารก่อนที่เยื่อเซลล์จะเว้าเข้าไปในไซโตพลาสซึม แล้วสร้างเป็น Vesicle
- แหล่งที่มา
- จิรัสย์ เจนพาณิชย์. (2552). BIOLOGY for high school students (พิมพ์ครั้งที่ 19). กรุงเทพฯ: บูมคัลเลอร์ไลน์.
- สมาน แก้วไวยุทธ. (2551). 100 จุดเน้นชีววิทยา ม.4-5-6 (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ: ไฮเอ็ดพับลิชชิ่ง.
- สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2558). หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพฯ: องค์การค้าของ สกสค.ลาดพร้าว.
- Reece, J. B and Campbell, N. A. (2011). Campbell biology (10th). Boston, Benjamin Cummings: Pearson.
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
ออร์แกเนลล์ (organelle)
ผู้เขียนบทความ : www.digitalschool.club
รีวิวจากผู้ใช้งาน : 4 ⭐ (35517 คะแนน)
ระดับสูงสุด : 4 ⭐
คะแนนต่ำสุด : 2 ⭐
สรุปเนื้อหาบทความ :
รายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับ : ออร์แกเนลล์ใดผลิตโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ให้กับเซลล์ได้ตามลำดับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
เซลล์สัตว์ เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสัตว์ และมีออร์แกเนลล์ต่างๆ เป็นส่วนประกอบ
ผู้เขียนบทความ : ngthai.com
รีวิวจากผู้ใช้งาน : 5 ⭐ (35654 คะแนน)
ระดับสูงสุด : 4 ⭐
คะแนนต่ำสุด : 2 ⭐
สรุปเนื้อหาบทความ :
รายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับ : ออร์แกเนลล์ใดผลิตโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ให้กับเซลล์ได้ตามลำดับ
- เซลล์สัตว์ และส่วนประกอบภายในเซลล์
- เซลล์สัตว์ เป็นส่วนที่เล็กที่สุดของสัตว์ ซึ่งภายในเซลล์ประกอบด้วยออร์แกเนลล์ (organelles) ต่างๆ
- เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane)
- นิวเคลียส (Nucleus)
- ไซโทพลาซึม (Cytoplasm)
- ร่างแหเอนโดพลาซึม (Endoplasmic Reticulum, ER)
- ไรโบโซม (Ribosome)
- ไลโซโซม (Lysosome)
- ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)
- กอลจิบอดี (Golgi Body) หรือกอลจิคอมเพล็กซ์ (Golgi Complex)
- อ่านเพิ่มเติม เซลล์พืช และส่วนประกอบภายในเซลล์
- Sustainability
- Latest Stories
- Tags
- Follow Me
- NATIONAL GEOGRAPHIC ASIA
- Contact
- Privacy Overview
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
องค์ประกอบโปรตีนจะแทรกอยู่ในชั้นบน ส่วนกลาง หรือ ส่วนล่างของชั้นฟอสโฟลิพิด
ผู้เขียนบทความ : il.mahidol.ac.th
รีวิวจากผู้ใช้งาน : 4 ⭐ (32297 คะแนน)
ระดับสูงสุด : 4 ⭐
คะแนนต่ำสุด : 2 ⭐
สรุปเนื้อหาบทความ :
รายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับ : ออร์แกเนลล์ใดผลิตโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ให้กับเซลล์ได้ตามลำดับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
เซลล์ และ ออร์แกเนลล์ สรุปใน 10 นาที (cell and organelle) – YouTube
ผู้เขียนบทความ : m.youtube.com
รีวิวจากผู้ใช้งาน : 4 ⭐ (20325 คะแนน)
ระดับสูงสุด : 5 ⭐
คะแนนต่ำสุด : 1 ⭐
สรุปเนื้อหาบทความ :
Posted: 9 Apr 2019
รายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับ : ออร์แกเนลล์ใดผลิตโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ให้กับเซลล์ได้ตามลำดับ
- https://m.youtube.com/watch%3Fv%3Dzcz_jsr8jD4
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
กล้ามเนื้อล้าจากการสลายไกลโคเจน | Bangkok Hospital
ผู้เขียนบทความ : www.bangkokhospital.com
รีวิวจากผู้ใช้งาน : 4 ⭐ (29556 คะแนน)
ระดับสูงสุด : 4 ⭐
คะแนนต่ำสุด : 2 ⭐
สรุปเนื้อหาบทความ :
รายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับ : ออร์แกเนลล์ใดผลิตโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ให้กับเซลล์ได้ตามลำดับ
- ค้นหาแพทย์ ทำนัด ติดต่อเรา Bangkok Hospital Logo https://www.bangkokhospital.com บริการ
- ข้อมูลเพื่อเข้ารับบริการ
- ข้อมูลสุขภาพ
- เกี่ยวกับเรา
- TH
- EN
- กล้ามเนื้อล้าจากการสลายไกลโคเจน
- แนะนำอาหารสำหรับนักกีฬา
- ข้อมูลโดย
- สอบถามเพิ่มเติมที่
- สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย โรงพยาบาลกรุงเทพ
- ติดตามข่าวสาร
- รับข่าวสาร
- ข้อเสนอแนะ
- ติดตามเรา
- บริการ
- บริการ
- ข้อมูลเพื่อเข้ารับบริการ
- ข้อมูลเพื่อเข้ารับบริการ
- ข้อมูลสุขภาพ
- ข้อมูลสุขภาพ
- เกี่ยวกับเรา
- เกี่ยวกับเรา
- เครือข่ายโรงพยาบาลกรุงเทพ
- เครือข่ายโรงพยาบาลกรุงเทพ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :